Home
Education
Classroom
Knowledge
Blog
TV
ธรรมะ
กิจกรรม
โครงการทรูปลูกปัญญา

ปลากัดไทยในต่างประเทศ

Posted By Plookpedia | 27 เม.ย. 60
2,044 Views

  Favorite

ปลากัดไทยในต่างประเทศ

       ได้มีการนำปลากัดไทยไปเลี้ยงเป็นปลาสวยงามในบางประเทศของทวีปยุโรปตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๑๗ และสหรัฐอเมริกานำเข้าไปเลี้ยงใน พ.ศ. ๒๔๖๐ จากนั้นมาได้มีการพัฒนาสายพันธุ์ปลากัดอย่างต่อเนื่องทั้งในทวีปยุโรปและสหรัฐอเมริกา โดยในระยะแรก ๆ จะเน้นการผสมปลากัดให้ได้สีใหม่ ๆ และได้รูปแบบสีที่สมบูรณ์ ในช่วง พ.ศ. ๒๔๗๐ - ๒๔๘๐ ผู้เลี้ยงมักนิยมปลากัดสีอ่อนหรือสีเผือกโดยเฉพาะอย่างยิ่งที่เรียกว่า ปลากัดเขมร ซึ่งมีลำตัวสีอ่อนและมีครีบสีแดง ต่อมาประมาณ พ.ศ. ๒๔๙๐ นักเพาะเลี้ยงมุ่งที่จะเพาะปลากัดสีดำและทำได้เป็นผลสำเร็จ ระยะต่อมาจึงได้เริ่มมีความสนใจที่จะพัฒนาลักษณะของรูปทรงลำตัวและครีบ โดยใน พ.ศ. ๒๕๐๗ นักเพาะเลี้ยงปลากัดในสหรัฐอเมริกาสามารถผลิตสายพันธุ์ปลากัด ลิบบี (Libby) ซึ่งมีหางใหญ่มน กว้างเป็น ๓ เท่าของลำตัว เช่นเดียวกับครีบก้นและครีบหลัง ต่อมาในระหว่าง พ.ศ. ๒๕๑๐ - ๒๕๒๐ ก็สามารถผลิตปลากัดหางสามเหลี่ยมให้ชื่อว่า เดลตา (Delta) ซึ่งเป็นปลากัดที่มีครีบหางแผ่ทำมุม ๔๕ - ๖๐ องศากับโคนหาง รวมทั้งปลาที่มีหางสามเหลี่ยมขนาดใหญ่ ที่เรียกว่า ซูเปอร์เดลตา (Super delta) ด้วย ประมาณ พ.ศ. ๒๕๓๐ ในทวีปยุโรปได้มีผู้สามารถผสมพันธุ์ปลากัดที่มีหางแผ่เป็นรูปครึ่งวงกลม ที่เรียกว่า ฮาล์ฟมูนเดลตา (Halfmoon delta) หรือหางพระจันทร์ครึ่งซีกได้ หลังจากนั้นใน พ.ศ. ๒๕๔๓ นักเพาะเลี้ยงปลากัดชาวสิงคโปร์ได้พัฒนาปลากัดสายพันธุ์ใหม่ที่มีหางจักเป็นหนามเหมือนมงกุฎ ที่เรียกว่า คราวน์เทล (Crown tail) หรือหางมงกุฎ ซึ่งเป็นปลากัดที่นิยมกันมากสายพันธุ์หนึ่งในปัจจุบัน ในสหรัฐอเมริกาและประเทศต่าง ๆ ทั่วโลก มีผู้นิยมเลี้ยงปลากัดทั้งที่เลี้ยงเป็นงานอดิเรกและเลี้ยงเป็นอาชีพเป็นจำนวนมากมีการจัดตั้งเป็นชมรมและสมาคมต่าง ๆ รวมทั้งมีการจัดการประกวดแข่งขันกันทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ

เว็บไซต์ทรูปลูกปัญญาดอทคอมเป็นเพียงผู้ให้บริการพื้นที่เผยแพร่ความรู้เพื่อประโยชน์ของสังคม ข้อความและรูปภาพที่ปรากฏในบทความเป็นการเผยแพร่โดยผู้ใช้งาน หากพบเห็นข้อความและรูปภาพที่ไม่เหมาะสมหรือละเมิดลิขสิทธิ์ กรุณาแจ้งผู้ดูแลระบบเพื่อดำเนินการต่อไป
  • Posted By
  • Plookpedia
  • 15 Followers
  • Follow